ปัจจัยใดบ้างที่อาจส่งผลต่อราคาของ LTCในอนาคต
สรุปย่อ
ราคาของ Litecoin ขึ้นอยู่กับการอนุมัติ ETF แนวโน้มการนำไปใช้ และการอัปเกรดเครือข่าย
- การอนุมัติ ETF (แนวโน้มบวก) – มีการพิจารณา 3 กองทุน Litecoin ETF โดย SEC ซึ่งมีกำหนดตัดสินใจภายในตุลาคม 2025
- การนำไปใช้โดยสถาบัน (ผลกระทบผสม) – MEI Pharma ถือครอง Litecoin มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์; วาฬ (whales) สะสมแต่ก็มีการขายออก
- การอัปเกรดทางเทคนิค (แนวโน้มบวก) – ระบบความเป็นส่วนตัว (MWEB) และสมาร์ตคอนแทรกต์ (LitVM) ช่วยเพิ่มประโยชน์ใช้สอย
รายละเอียดเชิงลึก
1. ความเคลื่อนไหวของ ETF และการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบ (ผลบวก)
ภาพรวม:
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) กำลังพิจารณาใบสมัคร Litecoin ETF แบบ spot จาก Grayscale, CoinShares และ Canary Capital โดยคาดว่าจะมีการตัดสินใจภายในตุลาคม 2025 นักวิเคราะห์ประเมินโอกาสได้รับการอนุมัติสูงถึง 90% (Bloomberg) เนื่องจาก Litecoin ถูกจัดประเภทเป็นสินค้าโภคภัณฑ์โดย CFTC การอนุมัติอาจนำเงินทุนเข้ามาในตลาดประมาณ 400–500 ล้านดอลลาร์ (CoinDesk) ซึ่งคล้ายกับการเพิ่มขึ้นของ Bitcoin ในปี 2023 ที่ได้รับแรงหนุนจาก ETF
ความหมาย:
การอนุมัติ ETF จะช่วยยกระดับสถานะของ Litecoin ในพอร์ตการลงทุนของสถาบัน เพิ่มความต้องการในตลาด แต่ถ้ามีความล่าช้าหรือถูกปฏิเสธ อาจทำให้เกิดความผันผวนในระยะสั้น เช่นเดียวกับกรณีของ XRP ETF
2. การนำไปใช้โดยสถาบันเทียบกับกิจกรรมของวาฬ (ผลกระทบผสม)
ภาพรวม:
บริษัท MEI Pharma ที่จดทะเบียนใน Nasdaq ลงทุน 100 ล้านดอลลาร์ใน Litecoin ในเดือนสิงหาคม 2025 ขณะที่ Luxxfolio ตั้งเป้าถือครอง Litecoin จำนวน 1 ล้าน LTC ภายในปี 2026 อย่างไรก็ตาม ข้อมูลบนเครือข่ายแสดงให้เห็นว่าวาฬได้ขาย Litecoin จำนวน 500,000 LTC (มูลค่า 58 ล้านดอลลาร์) ในเดือนกรกฎาคม 2025 ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อตลาดในระยะสั้น
ความหมาย:
การนำ Litecoin ไปใช้ในองค์กรช่วยลดจำนวนเหรียญที่หมุนเวียนในตลาดและแสดงถึงความเชื่อมั่นในระยะยาว แต่การขายออกของผู้ถือรายใหญ่ (วาฬ) อาจทำให้ราคาลดลงได้ การติดตามการเคลื่อนไหวของวาฬผ่านเครื่องมืออย่าง Santiment จึงเป็นสิ่งสำคัญ
3. การอัปเกรดเครือข่ายและความได้เปรียบในการแข่งขัน (ผลบวก)
ภาพรวม:
Litecoin ใช้เทคโนโลยี MimbleWimble Extension Block (MWEB) เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการทำธุรกรรม โดยมี Litecoin จำนวน 164,000 LTC ถูกล็อกไว้ในที่อยู่ MWEB นอกจากนี้ LitVM Layer-2 ที่เปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2025 ยังเพิ่มความสามารถในการรองรับ EVM (Ethereum Virtual Machine) ทำให้สามารถใช้งาน DeFi และการแลกเปลี่ยนข้ามเครือข่ายได้
ความหมาย:
ความสามารถในการรักษาความเป็นส่วนตัวและสมาร์ตคอนแทรกต์ช่วยให้ Litecoin เป็นคู่แข่งที่น่าสนใจของ Bitcoin สำหรับการชำระเงินและแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ การนำไปใช้โดยแพลตฟอร์มอย่าง Telegram Wallet ที่มีผู้ใช้มากกว่า 2.7 ล้านคน ยังช่วยเพิ่มประโยชน์ใช้สอยในโลกจริงอีกด้วย
สรุป
ทิศทางราคาของ Litecoin ขึ้นอยู่กับการอนุมัติ ETF ในเดือนตุลาคม 2025 แนวโน้มการสะสมของสถาบัน และการนำฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวและ DeFi มาใช้ แม้การอัปเกรดทางเทคนิคและการถือครองโดยองค์กรจะเป็นปัจจัยบวก แต่กิจกรรมของวาฬและความล่าช้าทางกฎระเบียบก็เป็นความเสี่ยงที่ต้องจับตา การอนุมัติ ETF จะเป็นตัวเร่งให้ราคาทะลุ 130 ดอลลาร์ หรือแรงกดดันจากการขายของเหมืองขุดจะมีอิทธิพลมากกว่ากัน? ควรติดตามเอกสารของ SEC และข้อมูลการเคลื่อนไหวของวาฬบนเครือข่ายเพื่อความชัดเจน
{{technical_analysis_coin_candle_chart}}
ผู้คนมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับ LTC
ยาวไปไม่ได้อ่าน (TLDR)
ชุมชน Litecoin มีความสมดุลระหว่างแนวโน้มขาขึ้นและความคาดหวังเกี่ยวกับ ETF นี่คือสิ่งที่กำลังเป็นที่สนใจ:
- นักวิเคราะห์เน้นรูปแบบสามเหลี่ยมสมมาตร 7 ปี ที่บ่งชี้ถึงโอกาสการทะลุแนวต้านครั้งใหญ่
- ความหวังในการอนุมัติ ETF เพิ่มขึ้น เมื่อ Canary Capital ยื่นขอไฟล์ที่ได้รับความสนใจ
- MEI Pharma ลงทุน LTC มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ในคลัง สร้างความมั่นใจในกลุ่มสถาบัน
- สัญญาณผสมปรากฏขึ้น เมื่อแนวโน้มขาขึ้นชนกับคำเตือนเรื่องการซื้อมากเกินไป
เจาะลึก
1. @CoinMarketCap: รูปแบบสามเหลี่ยมสมมาตร 7 ปีที่บ่งชี้การทะลุแนวต้าน ขาขึ้น
“Litecoin กำลังสร้างรูปแบบสามเหลี่ยมสมมาตร 7 ปี… มีโอกาส 90% ที่ ETF จะได้รับการอนุมัติ ซึ่งอาจเป็นตัวเร่งให้ราคาขึ้นได้”
– ชุมชน CoinMarketCap (ผู้ติดตาม 358K · การเข้าถึง 12.5K · 2025-05-08 15:19 UTC)
ดูโพสต์ต้นฉบับ
หมายความว่าอย่างไร: นี่เป็นสัญญาณบวกสำหรับ LTC เพราะการรวมตัวของราคาหลายปีมักนำไปสู่การเคลื่อนไหวที่รุนแรง การอนุมัติ ETF แบบ spot อาจทำให้เกิดการวิ่งราคาคล้ายกับ Bitcoin ในปี 2024 แม้ว่าจะยังไม่แน่ชัดเรื่องเวลาที่แน่นอน
2. @CoinJournal: ความหวัง ETF จาก Canary Capital ขาขึ้น
“นักวิเคราะห์จาก Bloomberg ประเมินโอกาสอนุมัติ Litecoin ETF ที่ 95% ภายในเดือนตุลาคม 2025”
– CoinJournal (ผู้ติดตาม 210K · การเข้าถึง 8.2K · 2025-08-05 10:26 UTC)
ดูโพสต์ต้นฉบับ
หมายความว่าอย่างไร: การอนุมัติจะเปิดประตูให้นักลงทุนสถาบันเข้ามาอย่างมาก โดยนักวิเคราะห์คาดว่าจะมีเงินไหลเข้ากว่า 5 พันล้านดอลลาร์ในเดือนแรก อย่างไรก็ตาม การเลื่อนการตัดสินใจของ SEC (ขยายไปถึงตุลาคม) อาจทำให้ต้องรอคอยอย่างอดทนในระยะสั้น
3. @MEI_Pharma: การจัดสรรคลัง 100 ล้านดอลลาร์ใน LTC ขาขึ้น
“MEI Pharma เพิ่ม LTC มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ในคลัง โดยอ้างถึงการเติบโตของการชำระเงินในโลกจริงและความสัมพันธ์กับ Bitcoin”
– MASTERBTCLTC (ผู้ติดตาม 89K · การเข้าถึง 4.7K · 2025-09-09 21:41 UTC)
ดูโพสต์ต้นฉบับ
หมายความว่าอย่างไร: การสนับสนุนจากสถาบันนี้ยืนยันถึงประโยชน์ใช้สอยของ LTC ที่มากกว่าการเก็งกำไร บริษัทมหาชนที่ถือครองคริปโตในคลังมักเป็นสัญญาณของการยอมรับในวงกว้างของบริษัทต่างๆ
4. @cryptonewsland: สัญญาณทางเทคนิคขาขึ้นและขาลง ผสมกัน
“RSI ของ LTC อยู่ที่ 71 บ่งชี้ว่าซื้อมากเกินไป แต่การทะลุ $120 อาจลบล้างความเสี่ยงการปรับฐาน”
– Cryptonewsland (ผู้ติดตาม 163K · การเข้าถึง 6.3K · 2025-08-08 02:23 UTC)
ดูโพสต์ต้นฉบับ
หมายความว่าอย่างไร: แม้รูปแบบกราฟขาขึ้นจะเป็นที่พูดถึงมาก แต่เทรดเดอร์ยังจับตาระดับแนวรับที่ $110 อย่างใกล้ชิด หากราคาปิดต่ำกว่าระดับนี้ อาจเกิดการขายตัดขาดทุนเป็นจำนวนมาก
สรุป
ความเห็นส่วนใหญ่เกี่ยวกับ Litecoin คือ ขาขึ้นแต่ระมัดระวัง เรื่องราวการทะลุแนวต้านจากรูปแบบ 7 ปีและโอกาส ETF เป็นประเด็นหลัก แต่สัญญาณซื้อมากเกินไปและการเลื่อนการตัดสินใจของหน่วยงานกำกับดูแลทำให้เกิดความผันผวน ควรจับตากำหนดเวลาการตัดสินใจของ SEC ในเดือนตุลาคม และความสามารถของ LTC ในการรักษาระดับ $110 หากราคาต่ำกว่านี้ อาจทำให้ตลาดหมีมุ่งเป้าไปยังโซนสะสมที่ $96–$102
ข่าวล่าสุดเกี่ยวกับ LTC คืออะไร
สรุปย่อ
Litecoin กำลังเคลื่อนไหวท่ามกลางการลงทุนจากสถาบันและการรอคอยการกำกับดูแล พร้อมกับได้รับแรงหนุนจากช่วงเวลาที่เรียกว่า altseason (ช่วงเวลาที่เหรียญคริปโตอื่น ๆ นอกจาก Bitcoin มีการเติบโต) นี่คืออัปเดตล่าสุด:
- การลงทุนของ MEI Pharma ใน Litecoin (6 กันยายน 2025) – บริษัท MEI Pharma จัดสรรเงินกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลงใน Litecoin ตามแนวทางเดียวกับ MicroStrategy ที่ลงทุนใน Bitcoin
- การเลื่อนการตัดสินใจของ SEC เกี่ยวกับ ETF (21 สิงหาคม 2025) – การตัดสินใจถูกเลื่อนออกไปเป็นเดือนตุลาคม แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่ามีโอกาสอนุมัติสูงถึง 95%
- แรงหนุนจาก Altseason (11 กันยายน 2025) – LTC เพิ่มขึ้น 3% ขณะที่ตัวชี้วัด altcoin แตะระดับสูงสุดในรอบปี
รายละเอียดเชิงลึก
1. การลงทุนของ MEI Pharma ใน Litecoin (6 กันยายน 2025)
ภาพรวม:
บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ MEI Pharma ได้จัดสรรเงินกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากกองทุนสำรองของบริษัทไปลงทุนใน Litecoin ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการลงทุนจากสถาบันที่ใหญ่ที่สุดใน LTC โดยก่อนหน้านี้มีการระดมทุนส่วนตัวมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์โดย GSR ซึ่งเป็นผู้สร้างตลาดคริปโตที่ตอนนี้ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกลยุทธ์ LTC ของ MEI
ความหมาย:
นี่เป็นสัญญาณบวกสำหรับ Litecoin เพราะแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นจากสถาบันในคุณค่าระยะยาวของ LTC คล้ายกับกลยุทธ์ของ MicroStrategy ที่สะสม Bitcoin การลงทุนนี้อาจกระตุ้นให้บริษัทอื่น ๆ หันมาใช้ LTC เป็นสินทรัพย์สำรองในกองทุน ทำให้ปริมาณเหรียญในตลาดลดลง (MEXC News)
2. การเลื่อนการตัดสินใจของ SEC เกี่ยวกับ ETF (21 สิงหาคม 2025)
ภาพรวม:
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ได้เลื่อนการตัดสินใจเกี่ยวกับการอนุมัติ ETF แบบ spot ของ Litecoin ที่ยื่นโดย Grayscale, CoinShares และบริษัทอื่น ๆ ออกไปเป็นเดือนตุลาคม 2025 นักวิเคราะห์จาก Bloomberg ประเมินว่าโอกาสได้รับการอนุมัติมีสูงถึง 95% ภายในสิ้นปีนี้
ความหมาย:
การเลื่อนนี้สร้างความไม่แน่นอนในระยะสั้น แต่เป็นการระมัดระวังในขั้นตอนการพิจารณามากกว่าการปฏิเสธ หากได้รับการอนุมัติ จะช่วยเปิดโอกาสให้ความต้องการจากสถาบันเพิ่มขึ้น เหมือนกับที่เกิดขึ้นกับ Bitcoin ETF ซึ่งดึงดูดเงินลงทุนกว่า 145 พันล้านดอลลาร์ นักลงทุนกำลังจับตาดูการตัดสินใจในเดือนตุลาคมนี้เพื่อหาสัญญาณสำคัญ (MEXC News)
3. แรงหนุนจาก Altseason (11 กันยายน 2025)
ภาพรวม:
Litecoin เพิ่มขึ้น 3% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ขณะที่ตัวชี้วัด altseason ของ Blockchain Center แตะระดับ 76 จาก 100 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในปี 2025 โดย LTC ทำผลงานดีกว่าเหรียญคริปโตชั้นนำกว่า 75% เมื่อเทียบกับ Bitcoin ในช่วง 90 วันที่ผ่านมา
ความหมาย:
สถานการณ์นี้ถือว่าเป็นกลางถึงบวกสำหรับ Litecoin แม้ว่าการเติบโตของ LTC จะช้ากว่าเหรียญที่มีความผันผวนสูง เช่น DOGE ที่เพิ่ม 5% และ AVAX ที่เพิ่ม 11% แต่หากช่วง altseason ยังคงต่อเนื่อง จะช่วยดึงดูดนักลงทุนรายย่อยให้เข้ามามากขึ้น อย่างไรก็ตาม LTC ยังต้องพัฒนาระบบนิเวศ เช่น การนำ LitVM มาใช้ เพื่อสร้างความโดดเด่น (MEXC News)
สรุป
Litecoin กำลังเดินหน้าผสมผสานระหว่างการยอมรับจากสถาบัน (การลงทุนของ MEI Pharma), การรอคอยการกำกับดูแล (การเลื่อนตัดสินใจ ETF) และแรงหนุนจากช่วง altseason แม้ว่าราคาจะขึ้นอยู่กับทิศทางของ Bitcoin และการตัดสินใจ ETF ในเดือนตุลาคม LTC มีข้อได้เปรียบเรื่องค่าธรรมเนียมต่ำและความน่าสนใจในฐานะ “เงินดิจิทัล” ที่เปรียบเสมือนเงินแท้ จะเป็นอย่างไรถ้าการลงทุนของ MEI กระตุ้นให้บริษัทใน Nasdaq รายอื่น ๆ หันมาใช้ LTC เพิ่มขึ้น?
ขั้นตอนถัดไปในแผนงานของ LTC คืออะไร
สรุปย่อ
แผนงานของ Litecoin มุ่งเน้นไปที่การนำไปใช้ในองค์กรขนาดใหญ่ การพัฒนาสัญญาอัจฉริยะ และการขยายการใช้งานเพื่อการชำระเงิน
- การอนุมัติ ETF (ไตรมาส 4 ปี 2025) – มี ETF 3 รายการในสหรัฐฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาของ SEC
- การพัฒนา LitVM Mainnet (ปี 2025–2026) – เทคโนโลยี Layer-2 แบบ zero-knowledge สำหรับ DeFi ข้ามเครือข่าย
- เปิดตัวกระเป๋าเงิน Luxxfolio (ไตรมาส 2 ปี 2026) – รุ่นเบต้า พร้อมฟีเจอร์โปรแกรมได้บน Layer-2
- เปิดตัวกองทุน Ecosystem (ไตรมาส 4 ปี 2025) – มอบทุนสนับสนุนสตาร์ทอัพที่ใช้ Litecoin
- การนำ MWEB Privacy มาใช้ (ต่อเนื่อง) – มี LTC กว่า 164,000 เหรียญถูกล็อกในรูปแบบความเป็นส่วนตัวแล้ว
รายละเอียดเชิงลึก
1. การอนุมัติ ETF (ไตรมาส 4 ปี 2025)
ภาพรวม:
บริษัท Grayscale, Canary Capital และ CoinShares ได้ยื่นขออนุมัติ ETF ที่เกี่ยวข้องกับ Litecoin โดยนักวิเคราะห์ประเมินโอกาสได้รับอนุมัติอยู่ที่ 68–90% ภายในปลายปี 2025 (CoinMarketCap) การอนุมัติจะช่วยดึงเงินลงทุนจากสถาบันมูลค่าราว 400–500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ความหมาย:
นี่เป็นสัญญาณบวกสำหรับ LTC เพราะการอนุมัติ ETF จะช่วยยืนยันว่า Litecoin ปฏิบัติตามกฎระเบียบและดึงดูดนักลงทุนแบบดั้งเดิมได้ อย่างไรก็ตาม หากเกิดความล่าช้าหรือถูกปฏิเสธ อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในระยะสั้น
2. การพัฒนา LitVM Mainnet (ปี 2025–2026)
ภาพรวม:
LitVM คือเครือข่าย Layer-2 แบบ zero-knowledge ตัวแรกของ Litecoin ที่รองรับสัญญาอัจฉริยะที่เข้ากันได้กับ EVM และสามารถทำธุรกรรมข้ามเครือข่ายกับ Bitcoin และ Cardano ได้ พัฒนาโดยใช้ Polygon’s CDK เพื่อเพิ่มฟังก์ชัน DeFi บน Litecoin โดยไม่ลดทอนความเร็ว (Crypto Times)
ความหมาย:
นี่เป็นสัญญาณบวกในระยะยาว เพราะ LitVM จะช่วยขยายการใช้งานของ Litecoin นอกเหนือจากการชำระเงิน แต่ก็มีความเสี่ยงด้านเทคนิคและการแข่งขันจาก Layer-2 ของ Ethereum
3. เปิดตัวกระเป๋าเงิน Luxxfolio (ไตรมาส 2 ปี 2026)
ภาพรวม:
Luxxfolio วางแผนเปิดตัวรุ่นเบต้าของกระเป๋าเงิน Litecoin ในไตรมาส 2 ปี 2026 โดยมีฟีเจอร์การทำธุรกรรม LTC แบบเนทีฟ เครื่องมือการเงินที่โปรแกรมได้ และการเชื่อมต่อกับร้านค้า การเปิดตัวเต็มรูปแบบจะเกิดขึ้นปลายปี 2026 (Luxxfolio)
ความหมาย:
นี่เป็นสัญญาณที่เป็นกลางถึงบวก เพราะการพัฒนากระเป๋าเงินที่ดีขึ้นจะช่วยเพิ่มการนำไปใช้ ความสำเร็จขึ้นอยู่กับการยอมรับของผู้ใช้และการเชื่อมต่อกับระบบชำระเงินที่มีอยู่
4. เปิดตัวกองทุน Ecosystem (ไตรมาส 4 ปี 2025)
ภาพรวม:
กองทุน Ecosystem มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์สำหรับ Litecoin จะเปิดตัวในไตรมาส 4 ปี 2025 เพื่อสนับสนุนนักพัฒนาและสตาร์ทอัพ โดยมีทุนสำหรับโครงการต่าง ๆ เช่น ตลาดแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์และเครื่องมือความเป็นส่วนตัว
ความหมาย:
นี่เป็นสัญญาณบวกสำหรับการส่งเสริมนวัตกรรม แต่ก็มีความเสี่ยงหากโครงการที่ได้รับทุนไม่สามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมาย
สรุป
แผนงานของ Litecoin ผสมผสานระหว่างการบรรลุเป้าหมายด้านกฎระเบียบ (ETF) การอัปเกรดทางเทคนิค (LitVM) และการเติบโตของระบบนิเวศ (กระเป๋าเงินและกองทุน) แม้ว่าการพัฒนาเหล่านี้จะช่วยเสริมบทบาทของ LTC ในฐานะ “เงินดิจิทัล” แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากความล่าช้าและปัญหาทางเทคนิค
ก้าวต่อไป? ควรติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ ETF ในเดือนตุลาคม 2025 และความก้าวหน้าของ LitVM ในการเชื่อมต่อข้ามเครือข่าย เพื่อประเมินการพัฒนาของ Litecoin นอกเหนือจากการชำระเงินทั่วไป
การอัปเดตล่าสุดในโค้ดเบสของ LTC คืออะไร
ยาวไปไม่ได้อ่าน (TLDR)
โค้ดของ Litecoin กำลังพัฒนาไปพร้อมกับการเพิ่มฟีเจอร์สมาร์ทคอนแทรกต์และความเป็นส่วนตัว
- เปิดตัว LitVM (30 พฤษภาคม 2025) – Layer-2 แบบ ZK ตัวแรกสำหรับสมาร์ทคอนแทรกต์และการแลกเปลี่ยนข้ามเครือข่าย
- เริ่มใช้ MWEB เพื่อความเป็นส่วนตัว (24 กรกฎาคม 2025) – มี LTC กว่า 164,000 เหรียญถูกล็อกในธุรกรรมแบบส่วนตัว
รายละเอียดเพิ่มเติม
1. เปิดตัว LitVM (30 พฤษภาคม 2025)
ภาพรวม: LitVM นำสมาร์ทคอนแทรกต์ที่รองรับ Ethereum มาใช้กับ Litecoin ทำให้สามารถสร้างแอปพลิเคชันทางการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) และการแลกเปลี่ยนข้ามเครือข่ายได้โดยไม่ลดทอนความปลอดภัยของระบบหลัก
LitVM สร้างขึ้นบน BitcoinOS และ Polygon’s CDK เป็น zero-knowledge rollup ตัวแรกของ Litecoin รองรับการแลกเปลี่ยนแบบไม่ต้องเชื่อใจระหว่าง Bitcoin, Cardano และ Litecoin ผ่านการพิสูจน์ทางคณิตศาสตร์โดยไม่ต้องพึ่งสะพานกลางแบบรวมศูนย์ ความเข้ากันได้กับ EVM ช่วยให้นักพัฒนาสามารถย้ายแอป Ethereum มาใช้ได้โดยตรง และการทำเหมืองร่วมกับ Dogecoin ช่วยเพิ่มความมั่นคงของเครือข่าย
หมายความว่าอย่างไร: นี่เป็นข่าวดีสำหรับ Litecoin เพราะเปิดโอกาสให้ใช้เงินดิจิทัลในรูปแบบโปรแกรมได้ (เช่น DeFi และสินทรัพย์ดิจิทัล) และดึงดูดนักพัฒนาจาก Ethereum ผู้ใช้จะได้รับประโยชน์จากธุรกรรมที่รวดเร็วและค่าธรรมเนียมต่ำขึ้น พร้อมกับสภาพคล่องข้ามเครือข่ายที่ดีขึ้น (ที่มา)
2. เริ่มใช้ MWEB เพื่อความเป็นส่วนตัว (24 กรกฎาคม 2025)
ภาพรวม: ปัจจุบันมี LTC กว่า 164,000 เหรียญถูกเก็บไว้ในที่อยู่ MWEB ซึ่งแสดงให้เห็นว่าฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวของ Litecoin กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น
MimbleWimble Extension Block (MWEB) ช่วยให้ผู้ใช้ทำธุรกรรมแบบส่วนตัวได้โดยยังคงปฏิบัติตามกฎระเบียบ ธุรกรรมจะซ่อนจำนวนเงินและที่อยู่โดยอัตโนมัติ แต่ยังสามารถตรวจสอบได้ด้วยกุญแจดูข้อมูล การใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากการรวมกับ Telegram Wallet ในเดือนกรกฎาคม 2025 ที่ทำให้การชำระเงินแบบส่วนตัวง่ายขึ้น
หมายความว่าอย่างไร: นี่เป็นข่าวกลาง ๆ สำหรับ Litecoin เพราะฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวตอบโจทย์ผู้ใช้บางกลุ่มโดยไม่ขัดแย้งกับหน่วยงานกำกับดูแล การใช้ MWEB ที่เพิ่มขึ้นอาจช่วยเพิ่มความน่าสนใจของ Litecoin สำหรับการทำธุรกรรมทางการค้าที่ต้องการความลับ (ที่มา)
สรุป
โค้ดของ Litecoin กำลังเปลี่ยนไปสู่สมาร์ทคอนแทรกต์ (LitVM) และความเป็นส่วนตัว (MWEB) โดยยังคงรักษาจุดเด่นด้านการชำระเงินไว้ได้อย่างสมดุล การมีสภาพคล่องข้ามเครือข่ายผ่าน LitVM จะช่วยให้ Litecoin ก้าวสู่ 20 อันดับแรกของ DeFi ในปี 2026 หรือไม่?
ทำไมราคาของ LTC ถึงลดลง?
ยาวไปไม่ได้อ่าน (TLDR)
Litecoin ร่วงลง 2.19% มาอยู่ที่ $113.32 ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยทำผลงานต่ำกว่าตลาดคริปโตโดยรวมที่ลดลง 0.96% สาเหตุหลักมาจาก:
- การหมุนเวียนกำไรในเหรียญ Altcoin – เงินทุนถูกโยกไปยังแนวโน้มใหม่ ๆ เนื่องจากความสนใจในช่วง altseason ลดลงเล็กน้อย
- การปฏิเสธทางเทคนิค – ไม่สามารถรักษาระดับสำคัญของ Fibonacci ที่ $115.72 ได้
- ความไม่แน่นอนจากการเลื่อนการอนุมัติ ETF – SEC เลื่อนการตัดสินใจเกี่ยวกับ Litecoin ETF ไปเป็นเดือนตุลาคม 2025
เจาะลึก
1. การหมุนเวียนกำไรในเหรียญ Altcoin (ส่งผลลบ)
ภาพรวม:
ดัชนี Altseason Index ลดลง 1.39% เหลือ 71 ซึ่งบ่งชี้ว่าความเสี่ยงในการลงทุนในเหรียญขนาดกลางอย่าง LTC ลดลง นักลงทุนหันไปลงทุนในเหรียญที่ทำกำไรสูงในแต่ละวัน เช่น DOGE +5%, AVAX +11% และโครงการ Layer 1/DeFi ใหม่ ๆ ทำให้ Litecoin ที่มีความผันผวนน้อยไม่ได้รับความนิยมเท่าเดิม
หมายความว่าอย่างไร:
การปรับตัวขึ้น 33% ใน 90 วันที่ผ่านมา ทำให้ Litecoin มีความเสี่ยงถูกขายทำกำไร ในขณะที่ความรู้สึกตลาดอยู่ในระดับกลาง (ดัชนี Fear & Greed: 50) นักลงทุนจึงเลือกเหรียญที่มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นชัดเจนมากกว่าแนวคิด “เงินดิจิทัล” ของ LTC
2. การวิเคราะห์ทางเทคนิค (ส่งผลลบ)
ภาพรวม:
LTC ร่วงต่ำกว่าระดับ Fibonacci retracement 50% ที่ $115.72 และค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 30 วัน (SMA) ที่ $114.35 โดย MACD histogram กลายเป็นลบ (-0.39397 เทียบกับจุดสูงสุด +0.45 เมื่อสัปดาห์ก่อน) ซึ่งบ่งชี้ว่าแรงขับเคลื่อนของราคาอ่อนตัวลง
หมายความว่าอย่างไร:
นักเทคนิคออกจากตำแหน่งเมื่อโครงสร้างแนวโน้มขาขึ้นถูกทำลาย ควรจับตาระดับแนวรับที่ $110.62 (Fibonacci 78.6%) เพราะถ้าราคาปิดต่ำกว่านี้ อาจเกิดแรงขายอัตโนมัติจากระบบ algorithmic
3. ความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ (ผลกระทบผสม)
ภาพรวม:
สำนักงาน ก.ล.ต. สหรัฐ (SEC) เลื่อนการตัดสินใจเรื่องการอนุมัติ Litecoin ETF ของ Grayscale และ CoinShares ไปเป็นเดือนตุลาคม 2025 (source) แม้โอกาสได้รับอนุมัติจะยังสูง (นักวิเคราะห์ประเมินไว้ที่ 90%) แต่การเลื่อนนี้เพิ่มความไม่แน่นอนในระยะสั้น
หมายความว่าอย่างไร:
นักลงทุนสถาบันชะลอการซื้อสะสม แต่ผู้ถือเหรียญระยะยาวมองว่าเป็นโอกาสซื้อเพิ่ม เช่น MEI Pharma ที่ลงทุน LTC ในคลังสินทรัพย์มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ (source) แสดงถึงความมั่นใจในอนาคตของการอนุมัติ ETF
สรุป
การปรับตัวลงของ Litecoin สะท้อนแรงกดดันระยะสั้นจากการขายทำกำไร สัญญาณทางเทคนิค และความล่าช้าในการอนุมัติ ETF มากกว่าการเสื่อมถอยของพื้นฐาน โดยผลตอบแทน 8.29% ใน 60 วันที่ผ่านมา ยังสูงกว่าของ BTC (+0.93%) และ ETH (-24.63%) แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งเชิงเปรียบเทียบ
จุดที่ต้องจับตา: LTC จะสามารถรักษาระดับแนวรับที่ $110.62 ได้หรือไม่ก่อนถึงกำหนดตัดสินใจ ETF ในเดือนตุลาคม หากราคาฟื้นตัวขึ้นที่จุดนี้ อาจเป็นสัญญาณกลับตัวขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดที่ $124.64 ได้อีกครั้ง